
พายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” กำลังกลายเป็นประเด็นร้อนในทุกพื้นที่ หลังกรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศฉบับล่าสุดเตือนทั่วประเทศให้ระวัง ฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และลมแรง โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และ 44 จังหวัดที่เข้าข่ายเสี่ยงภัยในช่วง 20-24 กรกฎาคมนี้ บ้านกีฬา ในฐานะผู้สื่อข่าวหญิงที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จึงขอสรุปข้อมูลทุกมิติให้คุณผู้อ่านเตรียมตัวรับมือภัยธรรมชาติครั้งนี้อย่างดีที่สุด
ศูนย์กลางพายุ “วิภา” ล่าสุดอยู่ที่กวางตุ้ง อิทธิพลทะลุถึงไทย
เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม เวลา 17.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยา แถลงข่าวว่า พายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” เคลื่อนตัวอยู่บริเวณชายฝั่งเมืองเจียงเหมิน มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ด้วยความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางราว 110 กม./ชม. ขณะนี้พายุเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว 25 กม./ชม. คาดว่าจะเคลื่อนตัวผ่านอ่าวตังเกี๋ย ขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบนในวันที่ 21-22 กรกฎาคม ก่อนอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นและหย่อมความกดอากาศต่ำ แต่ยังคงส่งอิทธิพลแรงผ่านร่องมรสุมปกคลุมภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคกลางด้านตะวันตก ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามันของไทย
44 จังหวัดเสี่ยงฝนถล่ม-น้ำท่วมฉับพลัน กรุงเทพฯ อ่วมเต็มๆ
กรมอุตุฯ เตือนชัดเจนว่าระหว่าง 20-24 กรกฎาคม จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยวันที่ 21 กรกฎาคมเป็นวันแรกที่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะโดนอิทธิพลพายุเต็มๆ ร่วมกับจังหวัดอื่นๆ ในทุกภาค โดยเฉพาะ น่าน พะเยา เชียงราย ที่ถูกจัดเป็นพื้นที่เสี่ยงสูงถึงขั้นต้องเตรียมอพยพหากสถานการณ์วิกฤต ทั้งนี้กรมอุตุฯ เน้นย้ำให้ประชาชนระวัง น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่ม และ น้ำท่วมขังในเมือง
รายชื่อจังหวัดสำคัญที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
- ภาคเหนือ: เชียงใหม่ เชียงราย น่าน พะเยา ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ตาก กำแพงเพชร
- ภาคอีสาน: เลย หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม อุดรธานี หนองบัวลำภู มุกดาหาร ขอนแก่น นครราชสีมา อุบลราชธานี
- ภาคกลาง: กรุงเทพมหานครและปริมณฑล นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี
- ภาคตะวันออก: นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด
- ภาคใต้: เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง พังงา ภูเก็ต ชุมพร สุราษฎร์ธานี
ทะเลคลื่นลมแรง เรือเล็กงดออกจากฝั่ง
ขณะเดียวกัน ทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ก็จะได้รับผลกระทบอย่างมาก โดยทะเลอันดามันตอนบนคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองอาจสูงเกิน 4 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งเด็ดขาดระหว่าง 20-25 กรกฎาคม ส่วนเรือใหญ่ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และควรติดตามประกาศจากกรมอุตุฯ อย่างใกล้ชิด
ทำไมพายุโซนร้อนจึงสร้างผลกระทบแม้อ่อนกำลัง?
แม้พายุจะอ่อนกำลังเมื่อเข้าสู่เขตลาวและไทย แต่สิ่งที่น่ากลัวคือมวลความชื้นและร่องมรสุมที่เสริมแรงต่อเนื่อง ทำให้ฝนตกสะสมมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มหรือที่ลาดเชิงเขา ซึ่งสภาพภูมิประเทศเอื้อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าได้ง่าย นี่คือธรรมชาติของพายุโซนร้อนที่หลายครั้งสร้างความเสียหายหนักมากกว่าเมื่อเทียบกับพายุไต้ฝุ่น เพราะระยะเวลาที่ฝนตกยาวนาน
ข้อควรปฏิบัติและการเตรียมพร้อมของประชาชน
- ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยจาก กรมอุตุนิยมวิทยา
- ตรวจสอบเส้นทางอพยพหรือที่พักชั่วคราวของพื้นที่ใกล้เคียง
- เตรียมกระเป๋าฉุกเฉินและของใช้จำเป็น เช่น น้ำ อาหาร ยา ไฟฉาย แบตเตอรี่สำรอง
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่เสี่ยง เช่น ริมคลอง ริมแม่น้ำ หรือเชิงเขา
- งดกิจกรรมทางทะเลในช่วงคลื่นลมแรง
ทำความรู้จักพายุโซนร้อนให้มากขึ้น
พายุโซนร้อน คือพายุหมุนเขตร้อนที่มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางอยู่ระหว่าง 63-118 กม./ชม. เมื่อเกิน 118 กม./ชม. จึงจะเรียกว่า ไต้ฝุ่น แม้ความแรงของลมจะไม่ถึงระดับไต้ฝุ่น แต่พายุโซนร้อนกลับมีผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะฝนที่ตกนานหลายวัน และคลื่นลมทะเลที่สูงเกิน 3 เมตร
ติดตามข้อมูลอัปเดตอย่างใกล้ชิด
กรมอุตุฯ ระบุว่าจะอัปเดตประกาศเป็นระยะ โดยสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ กรมอุตุนิยมวิทยา หรือโทรสอบถาม 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
พายุครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก และคงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายของฤดูฝน การเตรียมพร้อมรับมือคือสิ่งสำคัญเพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของเราเอง บ้านกีฬา ขอเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงเตือนภัยให้คุณผู้อ่านระมัดระวังและไม่ประมาทในทุกสถานการณ์
ติดตาม ข่าวกระแสมาแรง ได้ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา