
เมื่อเอ่ยชื่อ “เสก โลโซ” หรือ เสกสรรค์ ศุขพิมาย แฟนเพลงทั่วประเทศคงคุ้นเคยกับบทเพลงร็อกสุดคลาสสิก พลังเสียงอันดุดัน และเรื่องราวชีวิตที่เป็นทั้งแรงบันดาลใจและบทเรียนให้สังคม ทว่าในวันที่ชื่อของเขาถูกจับจ้องด้วยสถานะ “ผู้ต้องขัง” หลังกำแพงเรือนจำ เสกกลับเผยแง่มุมที่หลายคนไม่เคยรู้ ผ่านคำสารภาพอันจริงใจในรายการ ราชทัณฑ์แหกหัก EP.4 ตอน เสียงจากคนหลังกำแพง ที่เพจประชาสัมพันธ์ กรมราชทัณฑ์ เผยแพร่เมื่อ 10 กรกฎาคม 2568
เตรียมใจ 7 ปี ก่อนได้เรียนรู้ว่าเรือนจำไม่ได้เลวร้ายเสมอไป
เสกยอมรับตรงไปตรงมาว่า หลังศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อปี 2560 เขา “เตรียมใจนานกว่า 7 ปี” ว่าจะต้องเผชิญชีวิตในเรือนจำ “เหมือนคนติดคุกมาแล้วในใจ” เขาเล่าว่าตลอดช่วงนั้นเพื่อนๆ และน้องๆ ที่เคยผ่านเรือนจำต่างเล่าให้ฟังถึงความลำบาก ความกดดัน ทำให้เขากังวลไม่น้อย แต่เมื่อก้าวเข้าสู่กำแพงจริง เขากลับพบความจริงอีกด้าน “ผมได้เจอความรัก ความเข้าใจ ความช่วยเหลือ แบ่งปันกัน ก็รู้สึกว่าปรับตัวได้เร็ว และไม่น่ากลัวเหมือนที่เล่ากันมา”
จากร็อกสตาร์สู่ครูเพลง และแรงบันดาลใจให้นักโทษ
แม้จะอยู่ในสถานะผู้ต้องขัง เสกยังคงทำในสิ่งที่รัก และใช้ดนตรีเป็นเครื่องมือเยียวยาทุกคนรอบตัว เขาเล่าว่าหลังจากคืนแรกๆ ที่นอนไม่หลับ ผ่านไป 3-4 วัน เขาแต่งเพลงชื่อ ฉันคือกำลังใจ เพื่อส่งต่อความหวัง “ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ผมก็ตั้งใจทำประโยชน์ให้องค์กรนั้นๆ”
ในเรือนจำ เสกได้รับหน้าที่เป็นอาจารย์สอนน้องๆ เล่นดนตรี แต่งเพลง อัดรายการทีวี และเป็นที่พึ่งทางใจให้หลายๆ คน “บางคนติดยา บางคนขายยา ผมคุยกับเขาให้เลิกให้ได้ เพราะสังคมยังเปิดโอกาสให้” เขาเน้นย้ำกับทุกคนให้ปฏิบัติตัวเรียบร้อย เชื่อฟังผู้คุม เพื่อให้ใช้ชีวิตในนั้นอย่างสงบ และพร้อมกลับออกไปเริ่มต้นใหม่
ความผิดพลาดมีได้ทุกคน แต่อย่าปิดโอกาสคนหลังกำแพง
เสียงของเสกจากหลังกำแพงสะท้อนความคิดลึกซึ้ง เขาอยากบอกสังคมภายนอกว่า “คนที่เป็นนักโทษหรือผ่านเรือนจำ ไม่ใช่คนไม่ดีไปเสียทุกคน อยากให้บริษัทห้างร้านต่างๆ เปิดใจให้กว้าง เปิดโอกาสให้พวกเขาด้วย” คำพูดนี้สะท้อนปัญหาสังคมที่มักมองผู้ต้องขังด้วยอคติ ทั้งที่ทุกคนสามารถกลับตัวและทำดีได้ หากได้รับโอกาสและความเชื่อมั่น
ดนตรียังดังในกำแพง…ชวนแฟนๆ ร่วมงานแสดงฝีมือนักโทษ
แม้ต้องโทษจำคุกนานกว่า 2 ปีจากคดีเสพยา ครอบครองอาวุธ และขัดขวางเจ้าพนักงาน เสกยังยืนยันว่าดนตรีไม่เคยดับ เขาฝึกซ้อมและเตรียมขึ้นเวทีอีกครั้ง โดยเชิญแฟนๆ มาร่วมงาน มหกรรมนิทรรศการผลิตภัณฑ์ฝีมือผู้ต้องขัง ครั้งที่ 54 ระหว่างวันที่ 16-20 กรกฎาคมนี้ ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยเขาจะร่วมแสดงดนตรีกับเพื่อนผู้ต้องขังในวันเปิดงาน
บทเรียนที่สังคมควรฟัง
เรื่องราวของเสก โลโซ หลังกำแพงไม่ได้เป็นเพียงประเด็นข่าวไวรัล แต่ยังเป็นเครื่องเตือนใจสังคมว่า ทุกคนผิดพลาดได้ และทุกคนก็กลับมาดีได้เช่นกัน หากมีโอกาส มีแรงบันดาลใจ และมีกำลังใจ เสกใช้เสียงเพลงเป็นสะพานเชื่อมใจคนทั้งในและนอกเรือนจำ เขียนบทเพลงที่มีค่าเท่ากับบทเรียนชีวิตให้คนฟัง
บ้านกีฬาขอสรุปบทเรียนที่เขาฝากไว้ว่า “แค่ตั้งใจเป็นคนดี ปฏิบัติตัวถูกระเบียบ เชื่อฟังผู้คุม และพร้อมกลับสู่สังคมด้วยหัวใจที่เปลี่ยนแปลง ทุกอย่างเป็นไปได้เสมอ”
ติดตาม ข่าวกระแสมาแรง ที่น่าคิดและน่าติดตามแบบนี้ต่อได้ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา