บรรยากาศในแคมป์ทีมชาติไทย U23 ที่ ยามาโอกะ ฮานาซากะ อคาเดมี เริ่มร้อนระอุขึ้นทุกขณะ เมื่อขุนพลช้างศึกจูเนียร์ลงฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องในช่วงโค้งสุดท้าย ก่อนลุยศึก ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน U23 ปี 2025 ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 15-29 กรกฎาคมนี้ โดย “โค้ชวัง ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล” กุนซือมากประสบการณ์ สั่งติวเข้มทุกมิติ เน้นทั้งแท็กติกเกมรุกที่เฉียบคมและเกมรับที่แน่นหนา เพื่อให้ลูกทีมทุกคนเข้าใจระบบการเล่นและปรับสปีดเข้ากับเพื่อนร่วมทีมได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่สนามฝึกซ้อมประจำแคมป์ เวลา 17.00 น. ทีมชาติไทย U23 ลงฝึกซ้อมหนักทั้งในช่วงเช้าและเย็น โดยเนื้อหาหลักคือการจำลองสถานการณ์จริงให้ผู้เล่นได้แก้โจทย์ในแต่ละจังหวะ พร้อมทบทวนแท็กติกทั้งเกมรุกและเกมรับ เพื่อยกระดับความเข้าใจในทีมเวิร์กมากขึ้น การซ้อมครั้งนี้สร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความกระหายชัยชนะของนักเตะทุกคนอย่างชัดเจน
ฝั่ง ยศกร บูรพา กองหน้าดาวรุ่งอนาคตไกล เผยถึงความพร้อมส่วนตัวว่า “การได้รางวัลดาวซัลโวระดับมหาวิทยาลัยช่วยให้สภาพร่างกายและความมั่นใจของผมพร้อมเต็มที่ครับ เพราะผมไม่เคยหยุดซ้อมและยังคงรักษาจังหวะเกมตลอดเวลา การได้ซ้อมกับทีมชาติถือเป็นโอกาสสำคัญ ผมจะพยายามเรียนรู้ทุกอย่างจากโค้ชและพี่ๆ ในทีมให้มากที่สุด เพื่อทำผลงานให้สมกับความไว้วางใจ เป้าหมายคือพาทีมเข้าชิงให้ได้” ขณะที่ ศรวัสย์ โพธิ์สมัน ผู้รักษาประตูมือหนึ่งก็กล่าวด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ว่า “บรรยากาศในทีมดีมาก ทุกคนทุ่มเทเต็มร้อยเพื่อเป้าหมายเดียวกันคือการเป็นแชมป์ ผมเองก็จะทำให้ดีที่สุดในหน้าที่ของผม เพื่อพาทีมไปถึงฝัน”
สำหรับแผนการของทีมชาติไทย U23 หลังจากนี้จะเก็บตัวซ้อมที่ ยามาโอกะ ฮานาซากะ อคาเดมี ไปจนถึงวันที่ 14 กรกฎาคม พร้อมลงอุ่นเครื่องอีก 1 นัด เพื่อทดสอบความพร้อมจริง จากนั้นจึงบินลัดฟ้าสู่ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เตรียมลุยศึกอย่างเป็นทางการ
โปรแกรมรอบแบ่งกลุ่มของทีมชาติไทย U23 มีดังนี้
📆 วันที่ 19 กรกฎาคม 2568 : ติมอร์ เลสเต U23 พบ ไทย U23 เวลา 20.00 น. สนาม แพทริออต สเตเดียม
📆 วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 : ไทย U23 พบ เมียนมา U23 เวลา 20.00 น. สนาม แพทริออต สเตเดียม
การแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มครั้งนี้จะคัดเอาเพียง แชมป์กลุ่ม และทีมอันดับ 2 ที่ดีที่สุดเพียง 1 ทีมเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ซึ่งจะเตะในวันที่ 25 กรกฎาคม ก่อนจะไปชิงชนะเลิศในวันที่ 29 กรกฎาคม ณ เกโลรา บุง การ์โน สเตเดียม ที่ถือเป็นสังเวียนแห่งศักดิ์ศรีในภูมิภาค
แฟนบอลชาวไทยเตรียมใจให้พร้อม เพราะนี่คือโอกาสสำคัญที่ทีมชาติไทย U23 จะได้ประกาศศักดาความแข็งแกร่งบนเวทีอาเซียนอีกครั้ง
ติดตามทุกข่าวความเคลื่อนไหวของช้างศึกและศึกฟุตบอลอาเซียนได้ที่ ข่าวบอลไทยบ้านกีฬา
